วันอังคารที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Review เนื้อคู่ยังไงก็ได้เจอ Campagnalo Bora One 50 2015 จาก Chanchai Kit -N-Sports Cycling

Review เนื้อคู่ยังไงก็ได้เจอ Campagnalo Bora One 50 2015
( Credit Review by Khun Chanchai Kit จากทีม N-Sports Cycling  )

อยู่ๆ ก็เกิดอาการคัน อยากอัพโน้นอัพนี่ อยากล้อคาร์บอนขอบสูง อยากสายแฟชั่น อยากซิ่ง อยากอัพไปหมด เอาไงดีล่ะ เอาที่คิดว่าน่าจะเห็นผลก่อนแล้วกัน... "ล้อ" ไง หลังจากใช้ Eurus มาได้เกือบปี
....เริ่มจากตั้งงบก่อนเลย เอาว่ะกัดฟัน ราวๆ 50,000 ล่ะกัน (แพงกว่าเฟรมที่ใช้อีก)ได้งบแล้ว หาข้อมูลต่อ นี่เลย Zipp 303 อ่านรีวิวดีหมดทุกด้าน ซื้อง่ายขายคล่อง ถึงหน้าตาจะไม่ค่อยโดน แต่ประสิทธิภาพมาเต็ม โทรๆๆๆๆ ไม่มีของสักร้าน...เซ็ง หาใหม่แล้วกัน ตัวเลือกที่ 2 ยากแฮะ Raynold Aero 46 หรือ Campagnolo Bora One 50 ดี นั่งคิดตัดสินใจอยู่หลายวันจบที่ Raynold Aero 46 ล่ะกัน



เหตุผลเหรอ...มันสวยดีนะ โทรๆๆๆ คราวนี้มีของแฮะ ออกเดินทางสู่ร้านเป้าหมาย ถึงร้าน ไหนหว่า Raynold Aero 46 พอพนักงานหยิบมาให้ดูเท่านั้นแหละ ทำไมมันไม่โดนอะ ผิดกับที่คิดไว ทำไงดีอยากได้ขอบสูงแล้ว เหลือบไปเห็นล้อที่วางอยู่ใกล้ๆกัน พี่ๆขอดูตัวนั้นหน่อยสิ สวยใช้ได้ เข้ากับจักรยานด้วย ลองชั่งน้ำหนักเทียบดู หนักกว่า Raynold Aero 46 นิดหน่อย แต่เพราะความสวย เอาตัวนี้ล่ะกัน มันคือ Campagnolo Bora One 50 dark นี่เอง 

....ในที่สุดก็ได้ล้อคาร์บอนขอบสูงมาลองสักที....

คุณสมบัติคร่าวๆ : 

- ชุดล้อ BORA ONE จะมีดุมล้อที่ใช้อลูมิเนียมและใช้ลูกปืนเซอรามิคเทคโนโลยี USB Ultra Smooth Bearings มีความลื่นกว่าลูกปืนปกติประมาณ 2 เท่า ซี่ลวดแบบแอโร่ไดนามิค น้ำหนัก 1,265 g ต่อคู่
- ได้เวลาลองของกับเส้นทางเดิม workpoint บางปะอิน
1. ความรู้สึกแรกกับการเริ่มกดบันได ค่อยๆ เคลื่อนตัว ทำไมมันหนืดๆ แปลกๆนะคิดในใจสงสัยขาเราไม่แข็งแรงพอจะใช้มัน ไม่เป็นไรรันอินไปเรื่อยๆแล้วกัน.....หลังจากผ่านไป 30km เริ่มยิ้ม มันค่อยๆ ลื่นขึ้น ที่ความเร็ว 32km/h เบาสบายขาดี ค่อยๆ เพิ่มความเร็วมาที่ 35 ก็ยัง ok ลองที่ 40 ดูสิก็ได้อยู่นะ แต่แช่นานไม่ไหว ร่างกายยังแข็งแรงไม่พอต้องผ่อนแล้ว เปลี่ยนมาลองหมกหัวลากดูบ้างที่ความเร็ว 35 เบามากๆ HR ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
เหมาะกับการหมกยาวๆ เป็นอย่างยิ่ง
2. มาถึงจุดที่กังวลคือเรื่องลมปะทะข้างของล้อขอบสูงทำใจไว้แล้วว่าคงต้องมากขึ้นแน่ๆ แต่กลับไม่ใช่ ความแตกต่างราวๆ 5% เมื่อเทียบกับ Eurus ไม่ได้เป็นปัญหาเลย แต่สิ่งที่แตกต่าง คือการเบรกต้องเว้นระยะห่างมากกว่าล้ออลูอีกสักหน่อย อาจเป็นที่ชุดขับ 105 น่าจะมีส่วนอยู่ด้วย
3. เรื่องการปั่นกระชากเมื่อเทียบกับ Eurus มันไม่ได้กระชากปู๊ดป๊าด แต่ต้องค่อยๆ เร่งรอบขึ้นไป เมื่อถึงรอบของมันฉิวแน่นอน ตอนนี้รันอินได้ 500km แล้ว ลื่นขึ้นเรื่อยๆ กดเป็นมาดีจริงๆ

------ไม่ผิดหวังที่ได้มาครอบครอง ปั่นสนุกขึ้นเยอะ-------



Century V.43 King of Mountain ปั่นขึ้นเขา แบบเจ้าแห่งเขา

King of Mountain ปั่นขึ้นเขา แบบเจ้าแห่งเขา 

งานปั่น Shimano Trek Probike Century Ride Vol.43. ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 20-21 มิถุนานย 2558 ที่ รร. เอกไพลิน ริเวอร์แควรีสอร์ท อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ครั้งนี้ มีตีมงานหลัก นั่นคือ King of Mountain ปั่นขึ้นเขา แบบเจ้าแห่งเขา  แค่ฟังชื่อก็หนาวสะท้านตัวไปกันเลยทีเดียว เหอะๆๆๆ.....


การปั่นครั้งนี้ ความยาก คือการท้าทายกับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อขา ด้วยการปั่นสวนแรงโน้มถ่วงด้วยการปั่นขึ้นเขาเป็นระยะทางโดยส่วนใหญ่นั่นเอง ในครั้งนี้ทางทีมงานได้ตั้งชื่อเขาโหดที่นักปั่นจะเจอไว้ว่า "เขาขาแพลง แรงขาล้วน" โว้วๆ เบาๆค่ะ ชัน17 % บรึ๋ยยย !!!!!


สำหรับระยะการปั่นที่ 50K จะเป็นการปั่นไปยังสถานที่ทางเรียบที่มีความชันไม่มากเท่ากับนักปั่นระยะ 100K. (ปั่นไปถึงแถวๆเขาชนไก่) คิดอยู่นานว่าจะลงปั่นระยะไหนดี เพราะเห็น Elevation แล้วบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดา ณ กม.60 เห็นแล้วเพลียถึงสันหลัง ><!!!!!


บรรยากาศการลงทะเบียนช่วงบ่ายถึงเย็น ได้พบหน้าคาดตาบรรดานักปั่นขาแรงชาว TREK หลายๆท่านเริ่มมาลงทะเบียนค่อนข้างหนาแน่นทีเดียวค่ะ Hi-light งานวันดังกล่าวคือ เจ้าเครื่องปั่นที่อยู่บนเทรนเนอร์บนโลก Online ได้นั่นเองคะ่ เพราะเราสามารถออกกำลังกายแข่งกับเพื่อนๆ หรือใครๆได้ในโลกอินเทอร์เนท เสมือนเราได้ปั่นแข่งในสนามจริงทีเดียวนะค่ะ



บรรยากาศการ Dinner Party ช่วงค่ำเย็น ก็ไม่น้อยหน้ากันทีเดียวค่ะ มีการแจกเสื้อ 300 และเสื้อ 2000 สำหรับท่านที่มีการสะสมกิโลปั่นได้ตามระยะที่กำหนดไว้ สำหรับตัวเองยังสะสมไม่ได้ตามระยะที่กำหนด แต่ครั้งที่ 44 คิดว่าไม่น่าพลาดเสื้อ 300 !!!แน่ๆ ลุยย......

เตรียมตัวเดินทางกันแต่เช้า ตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้ไป
"เหล่าโดเมสติก" ประชุมและวางแผนการปั่นของเพื่อนสมาชิกฯ มีการเตรียมความพร้อมทางร่ายกาย
วอล์มร่างการโดยการยืด เหยียด ทุกส่วนให้กล้ามเนื้อได้รู้ตัวสักนิด ก่อนที่จะเจอศึกหนักหน่วงกับระยะทางที่ยาวไกล ...... 


สภาพอากาศค่อนข้างร้อนทีเดียว ทำให้แอบเป็นกังวัลเหมือนกันสำหรับการปั่นขึ้นเขาแบบร้อนๆว่าจะทนทานได้ขนาดไหน แต่จะพยายามทำให้เต็มแรง เต็มความสามารถตัวเองให้ได้มากที่สุด !! สู้ว๊อยย !!

สาเหตุที่ไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ก็เพราะมีทั้งพี่ๆ Domestique และรถ Service ประกบหน้า-หลัง ตลอดการปั่น ทำให้ค่อนข้างอุ่นใจเหมือนมีคนมาดูแลได้พอสมควร อบอุ่นใจแบบนี้เหมือนทุกทริปทีผ่่านมาจริงๆ






ต้องขอบคุณผู้สนับสนุนเครื่องดื่มเกลือแร่ M Sport นมถั่วเหลือง Vitamilk และน้ำเปล่าจากทางอีซูซุที่ได้ให้การสนับสนุนเครื่องดื่มทุกจุดให้น้้ำ เหมือนเช่นทุกๆครั้ง ณ จุดนี้ครึ่งทางแรกก็แทบกระอักแล้วค่ะ จำได้ว่าเหนื่อยมากและสภาพอากาศก็เริ่มร้อนมากเช่นกัน



ความยากของทริป กำลังจะเกิดขึ้นหลังจากจุดให้น้ำนี้แล้ว ............ นี่แหล่ะ Hi light ของแท้


ร้อนๆ เนินๆ เขาๆ มาแล้วคร้าบ ครบครับ ครบเครื่องเสียวหลังเสียวขา ไปถึงหัวกันทีเดียว
เปลี่ยนเกียร์สิครัช รออะไร ครับท่าน .......เนินมันมาแล้ววววววว ......จากภาพดูธรรมดา ของจริงยิ่งกว่านิยายบรรยายไม่ถูก กันทีเดียว .....

เลี้ยวจากนี้ไป รู้กัน ......ว่าจะอยู่ หรือรอด 5555+
 555+ และแล้ว .....ความจริงก็ปรากฎ สงสัยพี่ Domestique คงเห็นอิฉันปั่นแบบเต่ากับเนินนี้ ก็เลย
อานิสงค์เบ้าฝ่ามือ กำลังภายในช่วยดันหลังให้ แอบมีมาดตอนแรก แต่คิดไปคิดมา พี่เค้าหวังดี ก็จะปฏิเสธได้อย่างไร อย่างน้อยก็ผ่านเนินเขากับความร้อนได้อย่างสวยงาม โดยขาไม่แตะพื้นนะจ๊ะ คริคริ !!


... จบทริปนี้ มันพูดไม่ออกจริงๆนะ ทั้งมันส์ ทั้งโหด ทั้งฮา .....